https://www.natethip.com/news.php?id=10656
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10656
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10654
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10650
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอรรถกร ศิริลัทธยากร) เป็นผู้แทนเข้าร่วม การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ประจำปี 2568 (APEC 2025 Food Security Ministerial Meeting) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ณ เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี โดยมี H.E. Song Miryung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อาหาร และพัฒนาชนบท สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปครวม 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วม
การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค เป็นการแสดงเจตนารมณ์ด้านความมั่นคงอาหารร่วมกันของรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Driving Innovation in Agri-food Systems for Shared Prosperity” ซึ่งรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ได้แสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนมุมมองด้านนวัตกรรมในระบบเกษตรและอาหาร
รวมถึงร่วมกันหาแนวทางความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงอาหารในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยที่ประชุมได้ร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ประจำปี 2568 ซึ่งถือเป็นเอกสารผลลัพธ์สำคัญในการกำหนดทิศทางการเสริมสร้างระบบเกษตรและอาหารให้มีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุม โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ และความปั่นป่วนของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งนับได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศด้วย
เลขาธิการ สศก. ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคเกษตร โดยย้ำว่า ‘นวัตกรรมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น’ พร้อมชูนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค ได้แก่ (1) การยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ด้วยการพัฒนาคุณภาพการผลิตผ่านการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ (2) การเสริมสร้างศักยภาพให้เกษตรกรและสหกรณ์ ด้วยการสร้าง Smart Farmers สนับสนุนการเข้าถึงเงินทุนเพื่อใช้เครื่องจักรกล และพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นศูนย์บริการเกษตรครบวงจร และ (3) การสร้างความยืดหยุ่นและความพร้อมรับมือวิกฤต ด้วยมาตรการเตรียมความพร้อมและการปรับตัวต่อภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการใช้เทคโนโลยี
นอกจากนี้ เลขาธิการ สศก. ยังได้เน้นบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมของภาคการเกษตรในปัจจุบัน เนื่องด้วยศักยภาพของ AI จะช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการสูญเสีย ส่งเสริมการใช้น้ำและดินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนด้านการตลาดอย่างแม่นยำ พร้อมกันนี้ ได้ย้ำว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาภาคการเกษตร แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือทุกภาคส่วนต้องร่วมมือและขับเคลื่อนในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีไปใช้ให้ถูกวิธีและเหมาะสม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความร่วมมือระดับภูมิภาคเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่การพัฒนาที่ประสบผลสำเร็จ โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือและแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเข้มแข็ง
“การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการแสดงนโยบายของภาคการเกษตรไทยสู่เวทีเอเปคเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์และจุดยืนของประเทศไทยที่เชื่อมั่นว่า นวัตกรรม เทคโนโลยี และ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่เกษตรกรและภาคเกษตร แต่หัวใจที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ‘คน’ และ ‘ความร่วมมือ’ ในการขับเคลื่อนและนำเทคโนโลยีไปใช้อย่างถูกวิธีและเหมาะสม เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความมั่นคงทางอาหารร่วมกันในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
https://linevoom.line.me/post/1175504609356329249?
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน (กช.กสอ.) ชูธงนำเหล่าผู้ประกอบการไทยเดินทางทดสอบและเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง ในงาน Vietfood & Beverage – Propack 2025 ณ นครโฮจิมินห์
“Vietfood & Beverage – Propack 2025” เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์ระดับนานาชาติของเวียดนาม โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ SECC Saigon ประเทศเวียดนาม มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 600 ราย พร้อมเปิดมุมมองใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เทรนด์นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ การแปรรูปอาหารบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ เครื่องจักรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ OEM เพื่อการส่งออก โดยงานนี้จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสากลมากยิ่งขึ้น
“ดีพร้อม” โดย กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม (กอ.กสอ.) ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จจากการนำผู้ประกอบการไทยบุกตลาดญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ในครั้งนี้ ได้ยกทัพเดินหน้าพา 10 ผู้ประกอบการ ที่ผ่านการพัฒนาทักษะ และองค์ความรู้ ในด้านการบริหารธุรกิจ การเจรจาการค้า และการเตรียมความพร้อมในการส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ พร้อมให้โอกาสโตไกล นำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไปจัดแสดงสินค้าเพื่อทดสอบตลาด ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมทั้งสร้างเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศที่กว้างไกลไร้ขีดจำกัด ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สินค้าซอฟต์พาวเวอร์อาหารและเครื่องดื่มไทยสู่สายตาชาวโลก สอดรับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป :Cr;มณสิการ รามจันทร์
https://linevoom.line.me/post/1175495938453154736
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10648
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//ก่อนถึง “วันแม่แห่งชาติ” 12 สิงหาคม มูลนิธิต้นบุญ วิสาขา และ เดลิมิเร่อร์ นิวส์ โดย นภัค บุญนัชนิธินาถ (มาดามเอมมี่) ประธานผู้อำนวยการ ได้จัดงานประกาศเกียรติคุณแห่งปี 2568 รางวัล “แม่ดีเด่น” ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ เมื่อบ่ายวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมี รศ.ดร.อาณัฐชัย รัตตกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี ก่อนเริ่มงานมอบรางวัลผู้ดำเนินรายการ ได้เชิญชวนให้ทุกท่านลุกขึ้นยืนไว้อาลัยให้กับทหารที่เสียชีวิต ในการสู้รบเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยกับทหารกัมพูชาเป็นเวลา 1 นาที การมอบรางวัลในปีนี้มีแม่ที่ได้รับรางวัลสาขาต่างๆ 10 สาขาดังนี้
1. สาขา “แม่ดีเด่น“ คือ แม่ผู้เสียสละ เลี้ยงดูลูกอย่างเข้มแข็ง แม้เผชิญอุปสรรคชีวิต ก็ยังยืนหยัดด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรัก
2. สาขา “แม่อุปถัมภ์” คือ แม่ที่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นแม่บุญธรรม หรือผู้ที่เลี้ยงดูเด็กอื่นด้วยหัวใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
3. สาขา “แม่เลี้ยงเดี่ยวสร้างแรงบันดาลใจ” คือ แม่เลี้ยงเดี่ยวที่อดทน เข้มแข็ง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคม ด้วยความรัก ความรับผิดชอบ
4. สาขา “แม่ครู – พ่อครู” คือ ครูที่ทำหน้าที่เหมือน “แม่” หรือ “พ่อ” ของลูกศิษย์ ถ่ายทอดความรู้ ด้วยความรักและความห่วงใย เสมือนเลี้ยงดูผ่านการศึกษา
5. สาขา “แม่ผู้บริหาร” คือ ผู้นำองค์กรที่ดูแลพนักงานด้วยหัวใจของแม่ ที่เข้าใจ เห็นใจ และยืนเคียงข้างในทุกสถานการณ์
6. สาขา “แม่ของผู้คน” คือ
ผู้หญิงในบทบาทของนักอาสาสมัคร นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล หรือผู้ดูแลชุมชน ที่อุทิศตนเพื่อผู้อื่นอย่างไม่ย่อท้อ
7. สาขา “แม่สายศิลป์” คือ แม่ที่ถ่ายทอดความรักผ่านงานศิลปะต่างๆ ทั้งงานฝีมือ งานดนตรี หรือการแสดง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเยียวยาหัวใจผู้คน
8. สาขา “พ่อในบทบาทของแม่” คือ พ่อที่ก้าวข้ามกรอบทางเพศ รับบท “แม่” ด้วยความรักและความทุ่มเท เพื่อเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
9. สาขา “พ่อผู้เคียงข้างแม่” คือ พ่อหรือสามีที่สนับสนุนภรรยาในการเลี้ยงลูก ดูแลครอบครัวด้วยหัวใจ และเป็นแรงหนุนสำคัญในบทบาทของ “แม่”
10. สาขา “ลูกหัวใจแม่” คือ ลูกที่ทุ่มเทดูแลแม่ผู้ป่วย แม่สูงอายุ หรือแม่ที่ขาดคนดูแล ด้วยความกตัญญูและความรักที่งดงาม
มาดามเอมมี่ นภัค ประธานอำนวยการจัดงาน ได้พูดถึงการจัดงานในครั้งนึ้ว่า “งานในวันนี้มิใช่เพียงงานมอบรางวัลเท่านั้น แต่เป็นงานเชิดชูหัวใจของคนที่เป็นแม่ในทุกรูปแบบ เสมือนแม่ที่ให้การเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเมตตา ความห่วงใย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน ถึงแม้จะไม่ใช่แม่ผู้ใหักำเนิดก็ตามนะคะ ปีนี้เราได้มอบรางวัลให้แม่ทั้งหมด 10 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมถึงการให้ของแม่ในหลายมิติของชีวิตและสังคม ซึ่งทางคณะกรรมการของเรา ได้คัดสรรผู้ที่มารับรางวัลอย่างรอบคอบและเหมาะสม เพื่อคำนึงถึงคุณค่าของคนที่ทำหน้าที่แม่และเสมือนแม่ ด้วยความรักความเมตตาแบบไม่มีเงื่อนไข สำหรับเงินบริจาคที่ผู้มีจิตอันเป็นกุศลได้ร่วมสมทบในครั้งนี้ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วทางมูลนิธิจะนำไปซื้อรถเข็นให้ผู้พิการ และการกุศลต่างๆ เพราะทางเรามีหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยด้วย จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญกับทางมูลนิธิของเราในครั้งนี้ด้วยนะคะ”
ภายในงานมีผู้จัด ดารา นักร้อง นักแสดง และ บุคคลในวงการที่เข้ารับรางวัลหลายคน อาทิ แม่หนู-สรวงสุดา ชลลัมพี, กอบสุข จารุจินดา, นิภาพร นงนุช (อดีตนางเอกวัยรุ่นคนดัง เจ้าของฉายา “โอลิเวียร์ ฮัสซีย์ เมืองไทย”, นายหมวดโท จิระวดี อิศรางกรู ณ อยุธยา, แม่นก-จันทนา ศิริผล, ปิยะนุช ศกุนตนาค (อดีตนางเอกเด็กปั้นของ ฉลอง ภักดีวิจิตร และ ภริยาอดีตแม่ทัพภาค 4), กรุงศรีวิไล สุทินเผือก, ณหทัย พิจิตรา, อรุณ ภาวิไล, แมน-วทัญญู มุ่งหมาย, โก้-ดร.ธีรศักดิ์ พันธุจริยา, เต้-นันทศัย พิศลยบุตร, เจจินตัย อันติมานนท์, กำปั้น บาซู, เล้ง-ณัฐพล นิลดอนหวาย, แสตมป์-พรวศิน เรืองนุกูล, แมงปอ AF 10, บาส-นัฐวัฒิ จุลกะนาค (นักร้องวง ONE O ZEVEN) และ ลิลลี่ เหงียน ที่มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทยในงานด้วย :Cr;มณสิการ รามจันทร์